1. เลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า
อย่าลืมพกสติก่อนเข้าไปซื้อเครื่องสำอางทุกๆ ครั้ง เพราะจุดมุ่งหมายของการซื้อจะต้องซื้อให้ตรงตามจุดประสงค์ของการใช้งานและความเหมาะสมของใบหน้าเรา ไม่ใช่เลือกซื้อเพราะราคาที่ถูกลง จนทำให้เรามีเครื่องสำอางชนิดเดิมๆ อยู่เกลื่อนห้อง กลายเป็นการเสียเงินแบบไร้ค่า ทำให้เราไม่สามารถใช้งานเครื่องสำอางของเราได้อย่างคุ้มค่าอีกด้วย
2. คำนวนค่าใช้จ่ายการซื้อให้เหมาะสมกับเงินที่มี
เลือกซื้อเครื่องสำอางให้เหมาะสมตามฐานะและสภาพทางเศรษฐกิจของตนเอง โดยอาจจะคำนึงว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางแบรนด์ระดับโลกเสมอไป เพราะราคาที่แพงของมันมาจากการนำเข้าที่ต้องเสียภาษี มาจากความนิยม ทำให้ผู้ผลิตสามารถขึ้นราคาได้สูงขึ้น ซึ่งคุณภาพและสรรพคุณในการใช้งานของมันอาจจะเท่าเทียมกันกับเครื่องสำอางที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยเราเองก็เป็นได้
3. ร้านที่ขายต้องน่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้
เลือกซื้อเครื่องสำอางจากแหล่งขายที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันสินค้าปลอมแปลง อีกทั้งเมื่อเครื่องสำอางมีปัญหาเกิดขึ้นก็ทำให้เราสามารถนำกลับไปตรวจสอบและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ง่าย
4. อ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อเสมอ
อ่านฉลากสินค้าทุกครั้งก่อนการซื้อ และตัวเครื่องสำอางควรจะมีฉลากภาษาไทยติดเอาไว้อย่างละเอียดและชัดเจน พร้อมทั้งมีการบอกวิธีใช้ คำเตือน ส่วนผสม แหล่งผลิต วันผลิตและวันหมดอายุ
5. อย่ามัวแต่หลงเชื่อตามคำโฆษณาเกินจริง
ไม่ซื้อเครื่องสำอางราคาถูกตามคำเชิญชวนของโฆษณาเพียงอย่างเดียว เพราะการโฆษณาเป็นเพียงการโน้มน้าวและสร้างแรงดึงดูดกับผู้บริโภคเท่านั้น ซึ่งบางยี่ห้อก็มีการบอกกล่าวสรรพคุณเกินความจริง และอาจจะมีส่วนผสมของสารอันตรายอยู่ภายในจนทำให้เราเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงขึ้นมาได้
ดังนั้น ผู้บริโภคทั้งหลายที่รักสวยรักงามอย่าพึ่งรีบร้อนไปกับเครื่องสำอางราคาถูกที่มีสรรพคุณครอบจักรวาล หรือมีราคาถูกดูคุ้มค่า เพราะสิ่งที่เราเห็นว่ามันดีนั้นอาจจะแฝงอยู่ด้วยอันตราย จนกลายเป็นความไม่คุ้มค่าที่หนักหนามากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้